สูตรอาหารยอดฮิต 200 เมนูอาหารอร่อย อาหารไทยง่ายๆมีอะไรบ้าง

หูหมูแก้ว วิธีทำหูหมูแก้วทำอย่างไร อาหารง่ายๆทำกินเองได้ อาหารไทย นำหูหมูนำมาทำอาหาร หน้าตาคล้ายหมูยอ หูหมูแก้วทำอย่างไร เคล็ดลับการทำหูหมูแก้ว คนรักการทำอาหาร

อาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยม สูตรอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูหูหมู หูหมูแก้ว คือ หูหมูนำมาทำอาหาร แปรรูปในรูปแบบคล้ายหมูยอ เป็นแท่งๆ เมนูหูหมู เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง อาหารประเภทหมู ในส่วนประกอบที่ไม่ค่อยมีคนนำมาทำเป็นอาหาร แต่กลับอร่อยแบบที่นักชิมทั้งหลายเรีกยหา เมนูหูหมูแก้ว จิ้มแจ่ว เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ อยูที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

หูหมูแก้ว อาหารเมนูหมู ส่วนผสมและขั้นตอนการทำไม่ยาก สามารถทำกินได้ เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำหูหมูแก้ว

• หูหมู 4 – 5 หูหมู
• ใบกระวาน 2 ถ้วย
• อบเชย 1 ถ้วย
• พริกไทยขาว 1 ถ้วย
• ลูกกระวาน 1 ถ้วย
• โป๋ยกั๊ก 1 ถ้วย
• กระเทียมไทย 1 ถ้วย
• รากผักชี 1 ถ้วย
• เกลือ 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาล 1 ถ้วย
• ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต้ะ
• ซีอิ่วขาว 3 ช้อนโต้ะ
• ซีอิ้วดำ 3 ช้อนโต้ะ
• น้ำจิ้มแจ่ว 1 ถ้วย ( วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว )
• ใบตอง และ พลาติก สำหรับห่อหมูหมู

วิธีทำหูหมูแก้ว

1. นำหูหมูมาย่าง บนเตาถ่านให้สุก จากนั้นนำหูหมูย่างไปล้างน้ำให้สะอาด และขูดรอยไหม้จากการย่างหูหมู และนำมีดโกนขูดขนที่หูหมูออกให้หมด จากนั้นนำหูหมูมาพักเอาไว้ก่อน
2. เตรียมน้ำซุปในการตุ๋นหูหมู โดย เตรียมเครื่องเทศ ห่อใส่ผ้าขาวบาง ใส่ ใบกระวาน ลูกกระวาน อบเชย กระเทียม พริกไทย รากผักชี และโป๊ยกั๊ก ห่อให้แน่น
3. ใส่เครื่องเทศลงหม้อต้ม จากนั้นปรุงรส โดยใส่ เกลือ น้ำตาล ซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว และซีอิ้วดำ เคี่ยวให้น้ำซุปเข้ากัน จากนั้น นำหูหมูไปต้มค้างคืนไว้ ประมาณ 8 ถึง 10 ชั่วโมง
4. หลังจากที่ตุ๋นหูหมูในน้ำเครื่องเทศ ทั้งคืนแล้ว ให้นำหูหมูขึ้นมาพักไว้ และนำมเรียกเป็นชั้นๆ สัก 2 ถึง 3 ชั้น
5. ใช้ใบตองและพลาสติก ม้วนหูหมูให้เป็นแท่งๆ เหมือนแท่งหมูยอ รัดยางให้แน่น จากนั้นนำไปแช่เย็นไว้ 1 คืน
6. เป็นอันเสร็จสิ้น สามารถนำหูหมูแก้วมา หั่นเป็นชิ้นจัดเรียกให้สวนงาม รับประทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว หรือ น้ำจิ้มข้าวขาหมู

เคล็ดลับการทำหูหมูแก้ว

1. หูหมูให้นำไปย่างก่อน ให้ผิวของหูหมูมีความเหนียว เวลานำไปตุ๋น หูหมูจะยังคงรูปไม่เละ
2. การเตรียมหูหมูนั้น ต้องขูดขนที่หูหมูออกให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเสียรสชาติความอร่อย เพราะมีขนหมูติดปากเวลารับประทาน
3. การมัดหูหมูให้เป็นแท่ง เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ต้องม้วนให้แน่นๆ และมันให้ได้รูปทรง ไม่อย่างนั้นหูหมูจะไม่เป็นแท่ง

nlovecooking.com รวบรวมสูตรอาหารต่างๆ เมนูอาหารที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆสำหรับคยต้องการทำอาหาร ซึ่งเน้นรายละเอียด ส่วนผสม วิธีทำ และ เคล็ดลับในการทำอาหารต่างๆ ซึ่งมีสูตรอาหารต่างๆ เช่น อาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น และ อาหารเวียดนาม โดยการแยกสูตรอาหารต่างๆตามเทคนิคการทำอาหาร และ วััตถุดิบในการทำอาหาร เช่น เมนูผัด เมนูแกง เมนูทอด เมนูปิ้งย่าง เมนูนึ่ง เมนูตุ๋น เมนูยำ เมนูหมู เมนูไก่ เมนูปลา เมนูกุ้ง เมนูปลาหมึก เมนูไข่ รวมถึง น้ำจิ้ม น้ำพริก ขนมไทย อาหารเจ และ เครื่องดื่ม สำหรับสูตรอาหารที่เรานำเสนอ เราได้ทดสอบ ลองชิมรสชาติว่าอร่อยแล้ว แต่ความอร่อยของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ท่านจำเป็นต้องนำเอาไปปรับปรุงรสชาติให้ได้รสชาติที่ถูกใจท่านเอง สำหรับความอร่อยของอาหารแต่ละประเภทมีหลักการอยู่ง่ายๆ คือ หนึ่งวัตุถุดิบต้องมีคุณภาพ ความสด ความใหม่ของวัตถุดิบต่างๆมีความสำคัญ สองเทคนิคการเตรียมอาหาร ความเข้าใจในธรรมชาติของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหาร อะไรสุกง่าย อะไรสุกยาก รสชาติพื้นฐานของวัตถุดิบนั้นๆ และ สามการปรุงรสชาติ ซึ่งการปรุงรสชาติสำคัญที่สุด รสชาติของอาหารที่จะอร่อยหรือไม่อยูู่ที่การปรุงรสให้ถูกปาก เราหวังว่าท่านจะประทับใจในสูตรอาหารต่างๆที่เรานำเสนอนี้

หูหมูแก้ว เป็นสูตรอาหาร ที่เรามีความภูมิใจมาก เนื่องจากทุกวันนี้ จะหาหูหมูแก้วกินนั้นแทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว แต่สูตรอาหารเมนูนี้ จะไม่หายไปไหน หูหมูแก้วทำอย่างไร เมนูหมูหมูแก้ว เป็นอาหารไทยหากินยาก เนื่องจากขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลานาน วันนี้เราเอาเคล็ดลับการทำหูหมูแก้วมาฝากเพื่อนๆ คนรักอาหารเมนูหมู สำหรับอาหารเมนูหมูนั้น ตามที่เรากล่าวไว้ข้างตนในหน้า สูตรอาหารเมนูหมู ว่าหมูเป็นสัตว์ที่ มนุษย์นำมาทำอาหาร แล้หมูสามารถนำมาทำอาหารได้ทุกส่วนประกอบของตัวหมู สำหรับเมนูหูหมูแก้วนั้นเป็นอาหารกึ่งทานเล่น กึ่งอาหารหลัก ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดๆ ซึ่งสามารถปรับนำน้ำจิ้มที่เราชอบมาทานคู่ได้ สำหรับอาหารทานเล่น เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้ม สำหรับนั่งคุยกัน สังสรรค์

ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า วิธีทำผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่าทำอย่างไร อาหารง่ายๆทำกินเองได้ อาหารไทยเมนูผัด ผัดเผ็ดเนื้อวัวหอมๆ หอมเครื่องแกงเผ็ด เครื่องเทศ และใบยี่หร่า

อาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารไทย เมนูผัดเผ็ด เอาใจคนชอบเนื้อวัว ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ เนื้อวัวสดๆ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติให้ได้รสกลมกล่อม ที่สำคัญ การผัดพริกแกงเผ็ด ต้องให้หอมไม่ไหม้

ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เป็นอาหารง่ายๆ วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก วิธีทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักอาหารไทย และชอบเนื้อวัว

ส่วนผสมสำหรับทำผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า

• เครื่องเทศ ประกอบด้วย ใบกระวานแห้ง เม็ดลูกผักชี และเม็ดยี่หร่า ในอัตราส่วนเท่ากัน
• พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ใบยีหร่าซอยหยาบๆ 1 กำมือ
• เนื้อวัวสับ หยาบๆ 1 จาน
• พริกสด ซอย เฉียงยาวๆ 2 ช้อนโต้ะ

วิธีทำผัดเผ็ดเนื้อใบยี้หร่า

1. เตรียมเครื่องเทศ โดย นำใบกระวาน เม็ดลูกผักชี และเม็ดยี่หร่า ไปคั่วให้หอม และนำมาโขรกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาพักเอาไว้ก่อน
2. ต้มน้ำให้เดือดจัด จากนั้นนำเนื้อวัวไปลวกให้พอสุก ไม่สุกมาก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
3. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ไฟอ่อนๆ นำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด ให้หอมสุกจากนั้นใส่เครื่องเทศลงไปผัด 1 ช้อนโต้ะ
4. นำเนื้อวัวลวกลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำปลาและน้ำตาล
5. เติมใบยี้หร่าซอยลงไปผัด พอสุก สามารถเสริฟใส่จานพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า

• เนื้อวัวใช้เนื้อวัวสดๆ เนื้อส่วนสันใน เป็นส่วนที่มีความนุ่ม
• ให้นำเนื้อวัวไปลวกสะดุ้งน้ำเดือดๆ ก่อน เนื่องจาก เนื้อวัว มีกลิ่นแรง การนำไปลวกก่อนจะช่วยลดความแรงของกลิ่นเนื้อวัวได้
• การผัดเครื่องแกงเผ็ด ให้ผัดอย่างใจเย็น ค่อยๆให้เครื่องแกงสุด จะได้กลิ่นที่หอม
• ผัดเผ็ด เป็นอาหารที่ไม่เน้นรสหวาน จะเผ็ดนำ และเค็มตาม

nlovecooking.com รวบรวมสูตรอาหารต่างๆ เมนูอาหารที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆสำหรับคยต้องการทำอาหาร ซึ่งเน้นรายละเอียด ส่วนผสม วิธีทำ และ เคล็ดลับในการทำอาหารต่างๆ ซึ่งมีสูตรอาหารต่างๆ เช่น อาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น และ อาหารเวียดนาม โดยการแยกสูตรอาหารต่างๆตามเทคนิคการทำอาหาร และ วััตถุดิบในการทำอาหาร เช่น เมนูผัด เมนูแกง เมนูทอด เมนูปิ้งย่าง เมนูนึ่ง เมนูตุ๋น เมนูยำ เมนูหมู เมนูไก่ เมนูปลา เมนูกุ้ง เมนูปลาหมึก เมนูไข่ รวมถึง น้ำจิ้ม น้ำพริก ขนมไทย อาหารเจ และ เครื่องดื่ม สำหรับสูตรอาหารที่เรานำเสนอ เราได้ทดสอบ ลองชิมรสชาติว่าอร่อยแล้ว แต่ความอร่อยของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ท่านจำเป็นต้องนำเอาไปปรับปรุงรสชาติให้ได้รสชาติที่ถูกใจท่านเอง สำหรับความอร่อยของอาหารแต่ละประเภทมีหลักการอยู่ง่ายๆ คือ หนึ่งวัตุถุดิบต้องมีคุณภาพ ความสด ความใหม่ของวัตถุดิบต่างๆมีความสำคัญ สองเทคนิคการเตรียมอาหาร ความเข้าใจในธรรมชาติของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหาร อะไรสุกง่าย อะไรสุกยาก รสชาติพื้นฐานของวัตถุดิบนั้นๆ และ สามการปรุงรสชาติ ซึ่งการปรุงรสชาติสำคัญที่สุด รสชาติของอาหารที่จะอร่อยหรือไม่อยูู่ที่การปรุงรสให้ถูกปาก เราหวังว่าท่านจะประทับใจในสูตรอาหารต่างๆที่เรานำเสนอนี้

ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า อาหารผัด ประเภทผัดเผ็ด เนื้อวัวหอม ผัดกับเครื่องแกงเผ็ด และเครื่องเทศ และใบยี่หร่า รสร้อนแรง ทำให้เมนูผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เป็นสูตรอาหาร เมนูเด็ด เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง ผัดเผ็ดทำอย่างไร ใบยี่หร่าทำอะไรกินดี วันนี้เรามาแนะนำ สูตรผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เป็นอาหารบำรุงสุขภาพ รสเผ็ด ช่วยกระตุ้นเลือดลม ให้กระปี้กระเปล่า ช่วยขับเหงื่อได้ดี เครื่องแกงเผ็ด อย่าง เกลือ พริกแห้ง หอมแดง ข่า ก็รวมสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้ว สูตรเนื้อผัดเผ็ดนี้ยังมี เครื่องเทศ อย่าง ลูกผักชี ใบกระวานและเม็ดยี่หร่า เป็นเครื่องเทศ ที่มีกลิ่นหอมมาก เมนูผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เป็นการนำเอาใบยี่หร่า วันนี้ เรามาทำความรู้จักกับใบยี่หร่ากัน ว่า ใบยี่หร่า เป็นอย่างไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ยี่หร่า เป็นสมุนไพรไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Ocimum grastissimum L. ยี่หร่า มีชื่อเรียก อื่นๆ แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น เช่น โหระพาช้าง กะเพราควาย กะเพราญวน และหอมป้อม ลักษณะของใบยี่หร่า จัคล้ายกับใบโหรพา แต่ใบจะมีขนาดใหญ่กว่า ใบสาก สีเขียว ปลายใบแหลม ใบยี่หร่ามีกลิ่นหอมฉุน รสชาติเผ็ดร้อน สำหรับการนำยี่หร่านิยมนำมาทำเป็นเครื่องเทศ ตากแห้ง และบด ผสมอาหาร ใบยี่หร่าสดๆ นิยมนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ เพื่อดับกลิ่นคาว รวมถึเมนูแกงอย่าง แกงคั่วหรือแกงป่า ก็นำใบยี่หร่ามาเป็นส่วนผสมของอาหารด้วย นักโภชนาการ ได้ศึกษาสรรพคุร คุณค่าทางอาหารของใบยี่หร่าขนาด 100 กรัม พบว่า มีกากใยอาหาร 5.9 กรัม และสารสำคัญต่างๆ ประกอบด้วย วิตามินบี 3 ไนอะซิน 8.2 มิลลิกรัม วิตามินเอ สารเบต้าแคโรทีน สรรพคุณทางสมุนไพร ของใบยี่หร่า เช่น ช่วยกระตุ้นการทำงานระบบประสาท ช่วยทำลายอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณ บำรุงสายตา บรรเทาอาการไอ ช่วยขับเหงื่อ ช่วยระบบย่อยอาหาร ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเสมหะ เป็นต้น